วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554
การวัดความดันในหลอดเลือดดำกลาง Central Venous Pressure Monitoring : วิธีการวัด CVP
วิธีการวัด CVP
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบและล้างมือให้สะอาด
2. จัดท่าผู้ป่วยให้นอนหงายราบ (ผู้ป่วยบางรายมีข้อจำกัดในการนอนราบหรืออาจหอบ
เหนื่อยขณะที่นอนราบ จัดท่าศีรษะสูงได้ไม่เกิน 45 องศา) และแขนขาขณะที่วัดควรเหยียดตรง
3. หาตำแหน่งของ zero จุดตัดของ midaxillary line กับ fourth intercostal spaceและ
อาจขีดระดับไว้
4. ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดบริเวณจุกยางซึ่งอยู่ที่ปลายเปิดอีกด้านของสาย
extension ก่อนเปิดจุกยางนั้น
5. หมุน three-way ให้ IV fluid ไหลเข้าไปในสาย extension ด้านไม้บรรทัด โดยปิดด้านผู้ป่วยไว้ก่อน ควรให้ IV fluid อยู่ในสาย extension ในระดับเกือบเต็มสาย หรือมากกว่าค่าเดิม (ประมาณ 5 cm) จากนั้นหมุนปิด three-way ด้านไม้บรรทัด
6. นำไม้บรรทัดวางทาบที่ผู้ป่วย โดยให้ตำแหน่งของ zero หรือเลขศูนย์ ซึ่งจุดที่วางต้องอยู่ระดับเดียวกับ right atrium นั่นคือที่ตำแหน่งจุดตัดของ midaxillary line กับ fourth intercostal space
7. หมุน three-way เปิดเฉพาะด้านผู้ป่วยกับไม้บรรทัด ปิดด้าน IV (กรณีที่มี three-way
หลายอัน ให้ปรับเฉพาะอันที่อยู่ติดกับสาย cut down หรืออันที่มีไม้บรรทัด)
8. การอ่านค่า CVP ที่ work ดี จะต้อง fluctuate หรือมีการเต้นขึ้นลงของระดับน้ำในสาย
ที่ไม้บรรทัดตามจังหวะการหายใจ (หากพบว่าเต้นขึ้นลงตามชีพจร แสดงว่าปลายสาย CVP อยู่ลึกเกินไปลงเข้าไปถึงในหัวใจ) ให้อ่านค่าเมื่อเริ่มคงที่ โดยอ่านค่าช่วงหายใจออกสุด (end of expiration) เนื่องจากความดันในช่องทรวงอกจะใกล้เคียงกับความดันบรรยากาศ
*กรณีที่ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ และสามารถหายใจเองได้ ไม่มีหอบเหนื่อย ขณะอ่านค่า
ให้ปลดเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจจะทำให้ได้ค่า CVP สูงกว่าค่าจริง
*กรณีที่มีการใส่ PEEP จะทำให้ค่า CVP สูงกว่าค่าจริงมากขึ้น เนื่องจากความดันในช่องทรวงอกมาก แต่ในการวัด CVP ผู้ป่วยที่ on PEEP โดยเฉพาะที่ค่า PEEP > 5 cmH2O จะวัด CVP โดยไม่ปลดเครื่องช่วยหายใจ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มักมีภาวะของ hypoxia และการปลดเครื่องบ่อยจะมีผลให้ประสิทธิภาพในการถ่างถุงลมปอดลดลง
ดังนั้นในการอ่านค่า CVP ทุกครั้ง ควรบันทึกไว้ด้วยว่าวัดขณะใส่เครื่องช่วยหายใจหรือปลดเครื่อง นอนศีรษะสูงกี่องศา
9. เมื่ออ่านค่า CVP เสร็จแล้ว ให้หมุน three-way อยู่ในลักษณะเดิม คือ ปิดด้านไม้บรรทัด เปิดด้าน IV fluid และด้านผู้ป่วย จากนั้นปิดจุกยางของสาย extension
10. ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง โดยเฉพาะการหมุน three-way, rate IV fluid และข้อต่อต่างๆ ไม่ให้หลวมหรือหลุด
11. จัดท่าผู้ป่วยให้เหมือนเดิมหรือตามความเหมาะสม
ปัญหาที่พบจากการวัด CVP
1. IV fluid ไม่ไหลเข้าไปในสาย extension ของไม้บรรทัด
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- ไม่ได้เปิดจุกยางของสาย extension - เปิดจุกยาง
- หมุน three-way ผิดด้าน - หมุน three-way ให้ถูกด้าน
- มี clot อุดที่ three-way หรือปลายสาย - ใช้ syringe ดูด clot ถ้าดูดไม่
ออกให้extension เปลี่ยน three-
wayใหม่หรือเปลี่ยนสาย
extension ใหม่
2. CVP ไม่ work (ไม่ fluctuate)
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- มีการหักพับของสาย cut down หรือสาย - ตรวจสอบสายไม่ให้หักพับ
extension
- มีการอุดตันอาจเป็นที่ปลายสาย cut down, - ใช้ syring ดูด clot ทิ้ง โดยปลด
สายthree-wayหรือที่สาย
extension ออกก่อนและkeep
sterile ไว้ จากนั้นดูด clot จาก three-
way โดยหมุนปิดด้าน IV
- ถ้าดูดเลือดไม่ออกและไม่มี clot ที่ three-way ให้รายงานแพทย์ หากอุดตันแพทย์จะ revise ใหม่
3. มี air ในสาย cut down
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- three-way อาจแตก รั่ว - ใช้ syringe และเข็ม No. 23-24 ดูด air ออก โดยดูดจากจุกยางของสาย IV
- ข้อต่อต่างๆ หลวม -ตรวจสอบสาเหตุและแก้ไขตามสาเหตุ
- IV fluid หมด
- ไล่ air ไม่ดีขณะวัด CVP
4. มีเลือดย้อนจากผู้ป่วยเข้ามาในสายต่างๆ
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- ระบบที่ต่อเป็นระบบเปิด เช่น ข้อต่อต่างๆ - หมุนข้อต่อต่างๆ ให้แน่น หรือถ้า
รั่ว หรือหลุด ข้อต่อรั่วให้เปลี่ยนใหม่
- เปิด IV fluid ไล่เลือด จากนั้นปรับ rate IV ตามแผนการรักษา
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบและล้างมือให้สะอาด
2. จัดท่าผู้ป่วยให้นอนหงายราบ (ผู้ป่วยบางรายมีข้อจำกัดในการนอนราบหรืออาจหอบ
เหนื่อยขณะที่นอนราบ จัดท่าศีรษะสูงได้ไม่เกิน 45 องศา) และแขนขาขณะที่วัดควรเหยียดตรง
3. หาตำแหน่งของ zero จุดตัดของ midaxillary line กับ fourth intercostal spaceและ
อาจขีดระดับไว้
4. ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดบริเวณจุกยางซึ่งอยู่ที่ปลายเปิดอีกด้านของสาย
extension ก่อนเปิดจุกยางนั้น
5. หมุน three-way ให้ IV fluid ไหลเข้าไปในสาย extension ด้านไม้บรรทัด โดยปิดด้านผู้ป่วยไว้ก่อน ควรให้ IV fluid อยู่ในสาย extension ในระดับเกือบเต็มสาย หรือมากกว่าค่าเดิม (ประมาณ 5 cm) จากนั้นหมุนปิด three-way ด้านไม้บรรทัด
6. นำไม้บรรทัดวางทาบที่ผู้ป่วย โดยให้ตำแหน่งของ zero หรือเลขศูนย์ ซึ่งจุดที่วางต้องอยู่ระดับเดียวกับ right atrium นั่นคือที่ตำแหน่งจุดตัดของ midaxillary line กับ fourth intercostal space
7. หมุน three-way เปิดเฉพาะด้านผู้ป่วยกับไม้บรรทัด ปิดด้าน IV (กรณีที่มี three-way
หลายอัน ให้ปรับเฉพาะอันที่อยู่ติดกับสาย cut down หรืออันที่มีไม้บรรทัด)
8. การอ่านค่า CVP ที่ work ดี จะต้อง fluctuate หรือมีการเต้นขึ้นลงของระดับน้ำในสาย
ที่ไม้บรรทัดตามจังหวะการหายใจ (หากพบว่าเต้นขึ้นลงตามชีพจร แสดงว่าปลายสาย CVP อยู่ลึกเกินไปลงเข้าไปถึงในหัวใจ) ให้อ่านค่าเมื่อเริ่มคงที่ โดยอ่านค่าช่วงหายใจออกสุด (end of expiration) เนื่องจากความดันในช่องทรวงอกจะใกล้เคียงกับความดันบรรยากาศ
*กรณีที่ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ และสามารถหายใจเองได้ ไม่มีหอบเหนื่อย ขณะอ่านค่า
ให้ปลดเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจจะทำให้ได้ค่า CVP สูงกว่าค่าจริง
*กรณีที่มีการใส่ PEEP จะทำให้ค่า CVP สูงกว่าค่าจริงมากขึ้น เนื่องจากความดันในช่องทรวงอกมาก แต่ในการวัด CVP ผู้ป่วยที่ on PEEP โดยเฉพาะที่ค่า PEEP > 5 cmH2O จะวัด CVP โดยไม่ปลดเครื่องช่วยหายใจ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มักมีภาวะของ hypoxia และการปลดเครื่องบ่อยจะมีผลให้ประสิทธิภาพในการถ่างถุงลมปอดลดลง
ดังนั้นในการอ่านค่า CVP ทุกครั้ง ควรบันทึกไว้ด้วยว่าวัดขณะใส่เครื่องช่วยหายใจหรือปลดเครื่อง นอนศีรษะสูงกี่องศา
9. เมื่ออ่านค่า CVP เสร็จแล้ว ให้หมุน three-way อยู่ในลักษณะเดิม คือ ปิดด้านไม้บรรทัด เปิดด้าน IV fluid และด้านผู้ป่วย จากนั้นปิดจุกยางของสาย extension
10. ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง โดยเฉพาะการหมุน three-way, rate IV fluid และข้อต่อต่างๆ ไม่ให้หลวมหรือหลุด
11. จัดท่าผู้ป่วยให้เหมือนเดิมหรือตามความเหมาะสม
ปัญหาที่พบจากการวัด CVP
1. IV fluid ไม่ไหลเข้าไปในสาย extension ของไม้บรรทัด
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- ไม่ได้เปิดจุกยางของสาย extension - เปิดจุกยาง
- หมุน three-way ผิดด้าน - หมุน three-way ให้ถูกด้าน
- มี clot อุดที่ three-way หรือปลายสาย - ใช้ syringe ดูด clot ถ้าดูดไม่
ออกให้extension เปลี่ยน three-
wayใหม่หรือเปลี่ยนสาย
extension ใหม่
2. CVP ไม่ work (ไม่ fluctuate)
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- มีการหักพับของสาย cut down หรือสาย - ตรวจสอบสายไม่ให้หักพับ
extension
- มีการอุดตันอาจเป็นที่ปลายสาย cut down, - ใช้ syring ดูด clot ทิ้ง โดยปลด
สายthree-wayหรือที่สาย
extension ออกก่อนและkeep
sterile ไว้ จากนั้นดูด clot จาก three-
way โดยหมุนปิดด้าน IV
- ถ้าดูดเลือดไม่ออกและไม่มี clot ที่ three-way ให้รายงานแพทย์ หากอุดตันแพทย์จะ revise ใหม่
3. มี air ในสาย cut down
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- three-way อาจแตก รั่ว - ใช้ syringe และเข็ม No. 23-24 ดูด air ออก โดยดูดจากจุกยางของสาย IV
- ข้อต่อต่างๆ หลวม -ตรวจสอบสาเหตุและแก้ไขตามสาเหตุ
- IV fluid หมด
- ไล่ air ไม่ดีขณะวัด CVP
4. มีเลือดย้อนจากผู้ป่วยเข้ามาในสายต่างๆ
สาเหตุ แนวทางแก้ไข
- ระบบที่ต่อเป็นระบบเปิด เช่น ข้อต่อต่างๆ - หมุนข้อต่อต่างๆ ให้แน่น หรือถ้า
รั่ว หรือหลุด ข้อต่อรั่วให้เปลี่ยนใหม่
- เปิด IV fluid ไล่เลือด จากนั้นปรับ rate IV ตามแผนการรักษา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น